ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวข้องกับอิทธิพลของผู้นำที่มีต่อผู้ตาม
แต่อิทธิพลนั้นเป็นการให้อำนาจแก่ผู้ตามให้กลับกลายมาเป็นผู้นำ
และผู้ที่เปลี่ยนแปลงหน่วยงานในกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงองค์กร
ดังนั้นภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงจึงได้รับการมองว่าเป็นกระบวนการที่เป็นองค์รวม
และเกี่ยวข้องกับการดำเนินการของผู้นำในระดับต่างๆในหน่วยงานย่อยขององค์กร
จากการวิจัยพฤติกรรมภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงพบว่า
“ผู้นำจะมีการถ่ายโอนหน้าที่,ความรับผิดชอบและอำนาจที่สำคัญ
และขจัดข้อจำกัดการทำงานที่ไม่จำเป็นออกไป
ผู้นำมีการดูแลสอนทักษะให้แก่ผู้ตามที่มีความจำเป็นต้องแก้ปัญหา
ต้องการการริเริ่ม การกระตุ้นการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่สำคัญ
การกระตุ้นการแข่งขันความคิด การตระหนักในข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
การส่งเสริมความร่วมมือ และการทำงานเป็นทีม
รวมทั้งส่งเสริมการแก้ปัญหาแบบสร้างสรรค์ในการบริหารความขัดแย้งต่างๆ
ผู้นำจะทำการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร และระบบการบริหาร
เพื่อเน้นและสร้างค่านิยมและวัตถุประสงค์หลักขององค์กร
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership)
จึงประกอบไปด้วย
1. การมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์ (Idealized
Influence) หรือการมีคุณลักษณะพิเศษ (Charisma) ที่มีอุดมการณ์
มีวิสัยทัศน์ มีความสามารถในการบริหารอารมณ์และมีจริยธรรม
2. การสร้างแรงบันดาลใจ (Inspirational
Motivation) เป็นการจูงใจให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำงาน
โดยการสร้างแรงจูงใจภายใน
การสร้างเจตคติและการคิดในแง่บวกและกระตุ้นจิตวิญญาณของทีม (Team
Spirit) ให้มีชีวิตชีวา
3. การกระตุ้นทางปัญญา (Intellectual Stimulation)
เป็นการกระตุ้นความพยายามของผู้ตาม เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่และสร้างสรรค์
เพื่อการตระหนักรู้ในเรื่องปัญหา กระตุ้นให้มีการตั้งข้อสมมุติฐาน
เปลี่ยนกรอบการมองปัญหา และมีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
4.การคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล (Individualized
Consideration) เป็นการปฏิบัติต่อบุคคลในฐานะที่เป็นปัจเจกชน
การเอาใจใส่ดูแลคำนึงถึง ความต้องการและความแตกต่างระหว่างบุคคล
มีการติดต่อสื่อสาร และปฏิสัมพันธ์ที่ดี มีการแนะนำและการมอบหมายงาน
มีการพัฒนาหรือสนับสนุนในการทำงานเพื่อให้บุคคลสามารถบรรลุเป้าหมายของส่วนตนและส่วนรวม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น