Blogger นี้มีไว้ในการเรียนวิชาอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เท่านั้น


วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

ศาสตร์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวย (The Science of Getting Rich – SOGR)

ศาสตร์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวย (SOGR) เป็นศาสตร์ว่าด้วยกระบวนการและวิธีการปรับสภาพกาย (Body)     จิต (Mind) และวิญญาณ (Soul) ให้เข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน (Harmony) จนเกิดสมดุลย์ในอันที่จะทำให้เกิดความรู้สึกสงบและมีความสุข ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญต่อการสร้างพลังเพื่อสร้างความสำเร็จให้แก่ตัวเอง
                ด้วยกระบวนการที่ถูกต้องเหมาะสมจะทำให้เราสามารถควบคุมและกำหนดอนาคตของเรา ได้     ทั้งๆ ที่เราพยายามแสวงหาแนวทางดังกล่าวมาแล้วในอดีตแต่ไม่ได้ผล เนื่องจากเรามุ่งแต่จะทำให้ตัวเองรู้สึกดีไปวัน ๆ โดยไม่ได้สร้างความรู้สึกที่ดีอย่างแท้จริงให้เกิดขึ้น
                ความรู้สึกที่ดีต่อตัวเราเอง ต่อคนรอบข้าง ต่อสิ่งต่าง ๆ และต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราจะทำให้ตัวเราเกิดการผสานสอดคล้อง กับจักรวาลอันจะส่งผลให้เกิดพลังในการประจักษ์แจ้งและสร้างสรรค์ได้ตามที่ใจ ปราถนา
                ขอให้เข้าใจชัดเจนก่อนว่า ทุกคนอยู่ในโลกของความหลากหลาย ความคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับความยากลำบากจึงควรจะถูกกำจัดออกจากสำนึกของเราไปได้แล้ว ซึ่งจะทำให้เราพบว่าความผิดพลาดล้มเหลวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เป็นเพียงข้อมูลข่าวสารประเภทหนึ่งที่เราสามารถมองเห็นคุณค่าของข้อมูลข่าว สารนั้น โดยการรู้จักมองคุณค่าให้เห็นและใช้ประโยชน์จากมันให้ได้
                ทุกคนจะถูกฝึกฝนให้คิดให้ได้ว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะใดในขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นคนมีงานทำ ไม่มีงานทำ ประกอบอาชีพอิสระ หรือ ทำงานเป็นบางเวลาก็ตาม เราก็สามารถเปลี่ยนสถานะของเราได้ โดยการทำความเข้าใจตัวเองให้กระจ่าง แล้วคิดการณ์ให้ไกล มุ่งใฝ่คว้าให้สูงเข้าไว้ แล้วกฎแห่งธรรมชาติก็จะนำพาเราไปสู่สถานะที่สูงขึ้น
                เราจะได้รับการฝึกฝนให้ตระหนักชัดได้ว่า พลังของความคิดจะช่วยให้เราคิดสร้างสรรค์และมองเห็นวิสัยทัศน์ของเราอยู่ ข้างหน้า แล้วจะตระหนักชัดว่าถ้าเราอุตส่าห์เรียนรู้และฝึกฝนการปรับสภาพกาย จิต และวิญญาณของเราให้เกิดสมดุลย์และเป็นสุขนั้นจะไร้ค่าโดยสิ้นเชิงถ้าเราไม่ ได้นำไปใช้ในการปฏิบัติจริงให้เกิดผลในชีวิตประจำวัน
                ขอให้จำไว้เสมอว่า จิตใจที่เป็นสุขและความรู้สึกที่ดีจะทำให้เรารู้จัก “การให้” และเมื่อเราเกิดความตั้งใจที่จะให้เราก็จะ “ได้รับ” โดยอัตโนมัติ เพราะการให้ที่มิได้คาดหวังการได้รับการตอบแทนนั้นจะส่งผลตอบแทนกลับมาหาเรา เสมอ แม้ว่าบางครั้งอาจใช้เวลายาวนานบ้าง แต่ผลตอบแทนที่ได้รับจะมากมายเป็นเท่าทวีคูณ จิตใจที่มีความสุขจริง จึงต้องเป็นการให้ที่ต้องไม่คาดหวังวันเวลาของการได้รับผลตอบแทน
                ถ้าเราอ่านหนังสือแล้วเราฝึกปฏิบัติเพียงลำพังก็มักจะพบว่าคนรอบข้างอาจไม่ มีใครเข้าใจเรา การได้มีโอกาสฝึกปฏิบัติกับคนที่มีหัวอกอันเดียวกันกับเรา จะเป็นหนทางหนึ่งที่จะทำให้การฝึกฝนเกิดผล มีความหมายและการประยุกต์ใช้จะดำเนินไปได้ง่ายขึ้น
                การมีตำราปรุงอาหารและมีส่วนประกอบของอาหารที่จะปรุงพร้อมแล้วนั้น ไม่ได้หมายความว่าเราจะปรุงอาหารได้อร่อย การเรียนรู้ทั้งโดยการฝึกฝน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการได้ทดลองทำจริงต่างหากที่จะทำให้เราได้ลิ้มรส อาหารจานเด็ดที่เราตั้งใจใฝ่ฝัน
                ศาสตร์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวย ก็เช่นเดียวกัน จะเกิดผลสำเร็จอย่างแท้จริงกับชีวิตเราได้ก็ต่อเมื่อต้องมองให้ทะลุปรุโปร่ง และต้องลงมือปฏิบัติจริงเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น